เชียงใหม่ชู Soft Power ปั้นเมืองเทศกาลโลก ดึงตลาดไมซ์ เพิ่มมูลค่าเศรษฐกิจ

เชียงใหม่ชู Soft Power ปั้นเมืองเทศกาลโลก

เชียงใหม่ชู Soft Power ปั้นเมืองเทศกาลโลก ดึงตลาดไมซ์ เพิ่มมูลค่าเศรษฐกิจ

เชียงใหม่ชู Soft Power ปั้นเมืองเทศกาลโลก หลังได้รับเลือกเป็นเมืองเทศกาลโลก World Festival and Event City 2022 ดึงทุนวัฒนธรรม ประวัติศาสตร์ และอัตลักษณ์ล้านนา ต่อยอดสู่เมืองเศรษฐกิจสร้างสรรค์ระดับสากล พร้อมเร่งขับเคลื่อนตลาดไมซ์ ดัน Festival Economy เพิ่มมูลค่าเศรษฐกิจหมื่นล้าน

วันที่ 19 ตุลาคม 2565 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายนิรัตน์ พงษ์สิทธิถาวร ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ และนายจิรุตถ์ อิศรางกูร ณ อยุธยา ผู้อํานวยการสํานักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) หรือ TCEB ร่วมกันแถลงข่าวตอกย้ำศักยภาพเมืองเชียงใหม่ในฐานะไมซ์ซิตี้ (MICE City) และเมืองที่มีศักยภาพด้านการจัดงานเทศกาลระดับโลก (World Festival & Event City) ณ โรงแรมรติล้านนา ริเวอร์ไซด์ สปา รีสอร์ท เชียงใหม่

นายนิรัตน์ พงษ์สิทธิถาวร ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ กล่าวว่า รางวัลเมืองเทศกาลโลก World Festival and Event City 2022 ที่จังหวัดเชียงใหม่ได้รับเลือกโดยสมาคมงานเทศกาลนานาชาติ (International Festivals and Events Association, IFEA) จะช่วยส่งเสริมภาพลักษณ์ความเป็นศูนย์กลางเศรษฐกิจสร้างสรรค์ของเชียงใหม่ และในฐานะศูนย์กลางการพัฒนาทางเศรษฐกิจและสังคมของภาคเหนือ เชื่อมโยงกับประเทศเพื่อนบ้านและทางตอนใต้ ของประเทศจีน ตามนโยบายระเบียงเศรษฐกิจล้านนา

ทั้งนี้ จังหวัดเชียงใหม่มีทุนทางวัฒนธรรมที่ถือเป็นซอฟต์พาวเวอร์ (Soft Power) ที่มีเสน่ห์และมีคุณค่าในระดับสากล สามารถนํามาเป็นจุดขายที่ทรงพลังในด้านการท่องเที่ยว ซึ่งแนวทางการขับเคลื่อนเมืองนับจากนี้ จังหวัดเชียงใหม่พร้อมผลักดันนโยบายและยุทธศาสตร์ล้านนาสร้างสรรค์ หรือ Creative Lanna และผลักดันให้เชียงใหม่เป็นเมืองมรดกโลก (World Heritage) สร้างซอฟต์พาวเวอร์ผ่านทุนทางวัฒนธรรม

โดยกําหนดปฏิทินงาน (event calendar) ในแต่ละเดือน เพื่อดึงผู้คนให้มาเยือนเชียงใหม่และมีความสุขตลอดทั้ง 12 เดือน 12 เทศกาล ในส่วนมิตินานาชาตินั้น จะกําหนดยุทธศาสตร์ที่ชัดเจนในการพัฒนาและขับเคลื่อนให้จังหวัดเชียงใหม่มีสิ่งใหม่ๆ ที่น่าสนใจเกิดขึ้นในทุกวันคือ ความร่วมมือจากทุกฝ่ายทุกภาคส่วน ทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน รวมถึงภาคประชาชน ในการร่วมสร้างเมืองเชียงใหม่ให้เป็นเมืองน่าอยู่ น่าท่องเที่ยว ทําให้เมืองเดินหน้าสู่การพัฒนากระตุ้นเศรษฐกิจ สร้างงาน สร้างรายได้แก่ประชาชนอย่างมั่นคงยั่งยืน

นายจิรุตถ์ อิศรางกูร ณ อยุธยา ผู้อํานวยการสํานักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) หรือ TCEB กล่าวว่า เชียงใหม่มีสถานะเป็นเมืองไมซ์ซิตี้ชั้นนําระดับประเทศ และยังถือเป็นเมืองยุทธศาสตร์หลักของทีเส็บในภาคเหนือ และจากความสําเร็จของเชียงใหม่ที่คว้ารางวัล World Festival & Event City โดย IFEA ทีเส็บเห็นว่าวันนี้เชียงใหม่มีความพร้อมที่จะก้าวไปสู่การเป็นเมืองจุดหมายปลายทางนานาชาติที่จะรุกตลาดต่างประเทศและตลาดระดับพรีเมี่ยมอย่างเต็มตัว

โดยทีเส็บจะใช้กลยุทธ์สำคัญคือ Festival Economy หรือการขับเคลื่อนเศรษฐกิจด้วยงานเทศกาล ที่ต้องทำอย่างต่อเนื่อง โดยการนําซอฟต์พาวเวอร์ด้านวัฒนธรรม ประเพณี วิถีชีวิตของเมืองและชุมชนมามาผสานเข้ากับการ ออกแบบกิจกรรมที่จะสร้างประสบการณ์ใหม่ๆ ดึงดูดกลุ่มนักเดินทางคุณภาพที่มีกําลังซื้อสูง ซึ่ง Festival Economy ที่จะสร้างเศรษฐกิจในพื้นที่ได้อย่างแท้จริงนั้น ต้องเกิดจากการกิจกรรมไมซ์หลายๆ โครงการ อาทิ โครงการไมซ์ 7 Themes, ไมซ์เพื่อชุมชน ที่ได้นําร่องขึ้นที่จังหวัดเชียงใหม่ ไม่นับรวมการดึงงานสําคัญระดับนานาชาติอีกมากมายมาจัดที่นี่ด้วย

ยิ่งไปกว่านั้น ทีเส็บยังมีศูนย์ประสานงานในระดับภูมิภาค หรือสํานักงานภาคเหนืออยู่ที่จังหวัดเชียงใหม่ จึงพร้อมที่จะนําไมซ์ร่วมขับเคลื่อนพัฒนาเมือง นําพาเชียงใหม่และภาคเหนือเป็นจุดหมายปลายทางระดับโลก โดยมูลค่าตลาดไมซ์ในปี 2562 ก่อนเกิดสถานการณ์โควิด มีมูลค่าตลาดอยู่ที่ราว 10,000 ล้านบาท ทั้งนี้ การขับเคลื่อนเศรษฐกิจด้วยงานเทศกาล จะช่วยผลักดันรายได้ 10,000 ล้านบาทให้กลับคืนมาอีกครั้ง ซึ่งจะเพิ่มมูลค่าเศรษฐกิจของจังหวัดเชียงใหม่และภาคเหนือ มีการกระจายรายได้ ทําให้ชุมชนเข้มแข็ง และอย่างยั่งยืนต่อไป

Be the first to comment

Leave a Reply

Your email address will not be published.


*